เมื่อได้ข่าวว่า นากรักมาก ม๊ากมาก กำลังจะเข้าโรงหนัง ตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เอาแม่นากมาล้อเลียน แต่พอไปดูจริงๆ แล้วถึงกับอึ้งเลย – นี่มันไม่ใช่หนังตลกธรรมดา แต่เป็นหนังที่ “ฉลาด” มากกว่าที่คิด หลายคนอาจสงสัยว่าดีไหม น่าดูไหม หรือแม้แต่เรื่องอะไร วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบสบายๆ
หากใครกำลังมองหา ดูหนังเต็มเรื่อง ที่ทั้งสนุก ลึก และแปลกใหม่ เรื่องนี้อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังหาอยู่
เรื่องราวที่ซับซ้อนกว่าที่คิด นี่คือหนังเรื่องอะไรกันแน่?
เชื่อไหมว่าหนังเรื่องนี้เป็น “หนังซ้อนหนัง” ที่ทำให้ผมต้องคิดตาม? เรื่องราวเริ่มจากผู้กำกับปื๊ด (โหน่ง ชะชะช่า) ที่พยายามถ่ายหนังเรื่องใหม่เกี่ยวกับแม่นาก แต่แล้วนางนาก (ญดา นริลญา) ตัวจริงก็มาปรากฏตัวในกองถ่าย!
สิ่งที่ทำให้ผมหลงรักหนังเรื่องนี้คือ – นางนากไม่ได้เป็นแค่ผีที่มาหลอก แต่เป็นผู้ที่มาเรียกร้องสิทธิ์ในการเล่าเรื่องของตัวเอง เธอไม่พอใจที่ใครมาเล่าเรื่องของเธอโดยไม่ถาม และต้องการควบคุมว่าเรื่องจะเล่าไปในทิศทางไหน
ฉากที่ประทับใจที่สุดคือตอนที่นางนากบอกทีมงานว่า “ถ้าจะเล่าเรื่องของฉัน ต้องให้ฉันเป็นคนกำกับ” – ช่วงนี้ผมถึงกับขนลุกเลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องตลกธรรมดา แต่เป็นการตั้งคำถามที่ลึกซึ้ง
การกลับมาของแก๊งสามช่าที่รอมานาน
หม่ำ เท่ง โหน่ง กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจาก 15 ปี และครั้งนี้โหน่งได้เป็นผู้กำกับด้วย ถ้าเป็นแฟนคลับของพวกเขาแล้วจะรู้ว่าพลวัตของทั้งสามคนนี้ไม่ใช่แค่การแสดง แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจริงที่ถูกสอดแทรกเข้าไปในเรื่อง
เหตุใดจึงแตกต่างจากหนังแม่นากเรื่องอื่น เปรียบเทียบกับ “พี่มาก..พระโขนง” ที่ทุกคนรู้จัก
เคยดูพี่มาก..พระโขนงมาก่อน ทำให้รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ต่างกันมาก ถ้าเทียบกับพี่มากแล้ว:
- พี่มาก เป็นหนังล้อเลียนที่ตลกสนุกสนาน
- นากรักมาก ม๊ากมาก เป็นหนังที่ทำให้คิดตาม มีชั้นความหมายซ้อนอยู่
ต่างจากหนังผีตลกทั่วไปตรงที่ว่า มันไม่ได้แค่ใช้ผีมาสร้างความตลก แต่ใช้ผีเป็นตัวตั้งคำถามเกี่ยวกับการเล่าเรื่องและสื่อสารมวลชน
ทำไมชื่อเรื่องถึงสะกดว่า “ม๊ากมาก”?
ใครเคยสงสัยไหมว่าทำไมไม่เขียนว่า “มากมาก” ตามปกติ? ตอนแรกผมคิดว่าเป็นแค่การเล่นคำ แต่พอดูจริงๆ แล้วถึงรู้ว่า – การสะกดผิดนี้เป็นการบอกตั้งแต่ชื่อเรื่องเลยว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้จริงจังแบบธรรมดา
ประสบการณ์การดูที่ไม่เหมือนใคร ตอนดูต้องใช้สมองคิดตาม
ออกจากโรงหนังมา รู้สึกเหมือนได้ดูหนังสองเรื่องพร้อมกัน เรื่องแรกคือเรื่องของทีมงานกองถ่าย เรื่องที่สองคือเรื่องของนางนากกับคนรัก การที่หนังเล่าสองเรื่องนี้ควบคู่กันทำให้ต้องตั้งใจดูจริงๆ
แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าตัวละครในหนังลุกขึ้นมาควบคุมเรื่องเล่าแทนผู้กำกับ? คำถามนี้ทำให้ผมนึกไปถึงการที่เราบริโภคสื่อทุกวันนี้ – ใครเป็นคนควบคุมเรื่องเล่าที่เราได้รับ?
ฉากที่ประทับใจและจำได้
ตอนดูถึงฉากที่นางนากเข้าไปในกองถ่ายแล้วเริ่มสั่งการ หัวใจเต้นแรงเลย ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะตื่นเต้นที่ได้เห็นมุมมองใหม่ของการเล่าเรื่อง
คล้ายกับการที่เรานั่งดูหนังแล้วตัวละครหันมาคุยกับเราโดยตรง แต่ในที่นี้ตัวละครไม่ได้แค่คุยด้วย – เธอเอาบทควบคุมไปเลย!
คำถามที่หลายคนสงสัย
หนังเรื่องนี้ดีไหม น่าดูไหม?
ถ้าถามว่าดีไหม ผมจะบอกว่า “ดี” สำหรับคนที่ชอบหนังที่ทำให้คิดตาม แต่ถ้าหาแค่ความสนุกเบาๆ อาจจะรู้สึกว่า “หนักไป” นิดหน่อย
น่าดูสำหรับ:
- คนที่ชอบแก๊งสามช่า
- คนที่ชอบหนังที่มีความหมายซ้อน
- คนที่สนใจในการเล่าเรื่องแบบใหม่
อาจไม่เหมาะกับ:
- คนที่หาแค่ความตลกเบาๆ
- คนที่ไม่ชอบเรื่องซับซ้อน
ดูหนังเต็มเรื่องต้องทำยังไง?
หนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 สำหรับคนที่อยากดูหนังเต็มเรื่อง แนะนำให้ไปดูในโรงหนังเพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์ที่สุด
หนังมีพากษ์ไทยไหม?
เป็นหนังไทยแท้ๆ พากษ์ไทยตลอดเรื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องการอ่านซับไตเติ้ล
ทำไมหนังเรื่องนี้สำคัญ
เชื่อไหมว่าหนังเรื่องนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสหนังไทยที่ “ฉลาด” ขึ้น? ในยุคที่ทุกคนบริโภคสื่อผ่านโซเชียลมีเดีย การมีหนังที่ตั้งคำถามเรื่องการควบคุมเรื่องเล่าจึงมีความหมายมาก
ไม่อยากให้จบเลย ตอนที่เครดิตไฟล์ขึ้นมา ยังอยากดูต่อว่าเรื่องจะไปทิศทางไหน และอยากให้มีหนังไทยแนวนี้มากขึ้น
นากรักมาก ม๊ากมาก ไม่ใช่แค่หนังตลกธรรมดา แต่เป็นหนังที่ท้าทายวิธีคิดของเราเกี่ยวกับการเล่าเรื่อง การบริโภคสื่อ และความเป็นจริงในยุคดิจิทัล หากคุณพร้อมที่จะออกจากโซนคอมฟอร์ตและเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ หนังเรื่องนี้คือทางเลือกที่น่าสนใจมาก